หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงเมืองไลพ์ซิจ ได้แก่ จดหมายเหตุของมุขนายกธีทมาร์ แห่งเมอร์เซบูร์ก ใน ค.ศ. 1015 และบันทึกเที่ยวกับเมืองไลพ์ซิจ โดยออทโทที่ 2 มาร์เกรฟแห่งไมเซิน ใน ค.ศ. 1165 เป็นเหตุให้เมืองไลพ์ซิจจึงเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมนี และมีชื่อเสียงในฐานะ ศูนย์กลางทางการค้าของรัฐซัคเซิน
การจัดตั้งมหาวิทยาลัยไลพ์ซิจใน ค.ศ. 1409 ทำให้ไลพ์ซิจพัฒนาขึ้นเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านกฎหมาย และสิ่งพิมพ์ของประเทศ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลปกครองหนึ่งในห้าศาลสูงสุดของประเทศ
งานแสดงสินค้าไลพ์ซิจ เป็นงานแสดงสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่สมัยกลาง ในอดีตงานแสดงสินค้าไลพ์ซิจ ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าผู้ครองรัฐที่จะไม่ให้เมืองใดในรัศมี 250 กิโลเมตร จัดงานแสดงสินค้าแข่งกับเมืองไลพ์ซิจ[5] และปัจจุบันงานแสดงสินค้าไลพ์ซิจ ยังเป็นงานแสดงสินค้าระดับโลกอีกด้วย
ค.ศ. 1839 ไลพ์ซิจเป็นชุมทางรถไฟระยะทางไกลแห่งแรกของประเทศเยอรมนี เพื่อเดินทางไปยังเมืองเดรสเดิน เมืองหลวงของรัฐซัคเซิน นับแต่นั้นมา ไลพ์ซิจจึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟในยุโรปกลาง และสถานีรถไฟไลพ์ซิจเป็นสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่ยุคนั้น มาจนปัจจุบัน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ไลพ์ซิจมีประชากรรวมกว่าล้านคน จึงเป็นที่ตั้งของพรรคแรงงาน รวมไปถึงมีการจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นที่เมืองไลพ์ซิจนี้ ใน ค.ศ. 1863
ในยุคนโปเลียน ไลพ์ซิจเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพนโปเลียน โดยนโปเลียนใช้เมืองไลพ์ซิจ เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อส่งกองกำลังเข้ายึดยุโรปกลาง และรัสเซีย เป็นเหตุให้เมืองไลพ์ซิจเป็นสมรภูมิสงครามแห่งชนชาติ ยุทธการที่ไลพ์ซิจ เมื่อ ค.ศ. 1913 กองทัพพันธมิตรกษัตริย์และผู้ครองนครในทวีปยุโรป รวมทัพกันขับไล่กองทัพนโปเลียน โดยกองทัพของนโปเลียนได้แตกพ่ายครั้งแรกที่เมืองไลพ์ซิจ ปัจจุบันนี้ยังมีอนุสรณ์สถานสงครามแห่งชนชาติ เป็นสิ่งรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ไลพ์ซิจเสียหายอย่างหนักเนื่องจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ยึดครองไลพ์ซิจได้ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1945 และในภายหลังได้ถ่ายอำนาจการปกครองแก่กองทัพแดงของสหภาพโซเวียตตามข้อตกลงในการปกครองดินแดน ไลพ์ซิจจึงรวมเป็นส่วนหนึ่ง และกลายเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี ก่อนจะรวมเข้าเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ใน ค.ศ. 1989
สรุปประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองไลพ์ซิจ
ปี |
เหตุการณ์สำคัญ |
ค.ศ. 1015 |
ครั้งแรกที่มีหลักฐานกล่าวอ้างถึงเมืองไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1212 |
สร้างโบสถ์นักบุญโธมัส |
ค.ศ. 1409 |
ก่อตั้งมหาวิทยาลัยไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1481 |
มีการพิมพ์หนังสือครั้งแรกในไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1497 |
มีการจัดงานแสดงสินค้าครั้งแรกในไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1555 |
เริ่มก่อสร้างศาลาว่าการเมืองหลังเก่า |
ค.ศ. 1650 |
หนังสือพิมพ์รายวันฉบับแรกของโลก ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1813 |
สงครามแห่งชนชาติ กองทัพนโปเลียนซึ่งตั้งฐานที่มั่นที่เมืองไลพ์ซิจพ่ายแพ้อย่างย่อยยับครั้งแรก |
ค.ศ. 1839 |
เปิดบริการรถไฟทางไกลสายแรกในเยอรมนี เส้นทางไลพ์ซิจ–เดรสเดิน |
ค.ศ. 1878 |
สวนสัตว์ไลพ์ซิจ เปิดบริการครั้งแรก |
ค.ศ. 1895 |
ศาลอุทธรณ์เปิดทำการในเมืองไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1899 |
เริ่มก่อสร้างศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ เสร็จสิ้น ค.ศ. 1905 |
ค.ศ. 1911 |
เปิดบริการสนามบินไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1912 |
เปิดบริการหอสมุดประชาชน ประจำชาติเยอรมนี ในเมืองไลพ์ซิจ |
ค.ศ. 1913 |
ก่อสร้างอนุสรณ์สถานสงครามแห่งชนชาติ และคริสตจักรนิกายรัสเซียนออธอร์ดอกซ์ |
ค.ศ. 1989 |
ชาวเมืองไลพ์ซิจร่วมเดินขบวนประท้วงการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ เป็นจุดเริ่มต้นของการรวมประเทศ |
ค.ศ. 2005 |
เมืองไลพ์ซิจร่วมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก |
ค.ศ. 2009 |
มหาวิทยาลัยไลพ์ซิจ อายุครบ 600 ปี |